ฤดูฝนของเรา :)

 

ปีนี้ดูเหมือนจะเข้าฤดูฝนเร็วกว่าปีที่แล้วอีก

ฤดูฝนปีที่แล้วฝนตกหนักมากๆสำหรับเรา ... โลกข้างนอกฝนตกก็แห้งไป

แต่ในใจเราแม่ง เหมือนน้ำท่วมไปเลย

ขอฤดูฝนปีนี้ มีแสงแดดออกบ่อยๆ นะ :)) 

Chiang Mai [ 20/11/20 - 23/11/20 ]

 

รอบนี้ไปเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน

จองตั๋วเครื่องบินของ Bangkok airway ไว้ 

ดีตรงที่ใกล้บ้านเพราะขึ้นสุวรรณภูมินี่แหละ 

แต่ขนาดใกล้ก็ยังจำเวลาขึ้นเครื่องผิด ความรัตนาภรณ์ที่แท้ทรู

เราไปถึงเชียงใหม่ตอน 9.20 ถ้าจำไม่ผิด ก็โทรหาพ่อว่าอยู่ไหนแล้ววว

ให้พ่อมารับ เจอพ่อ 10 โมงนิดๆ ก็ไปกินข้าวที่ร้านลำดวนสาขา 3 เคยมาครั้งก่อน

อร่อยและก็ออกนอกเมืองไปหน่อย คนเลยน้อยมากๆ ไม่วุ่นวายดี

กินเสร็จก็จะไปเที่ยวแถวๆ แม่ริม 

ลองไปที่ไร่กลิ่นเกสร แม่ริม เห็นว่าเพิ่งเปิดกลางเดือน พย.ที่ผ่านมา

คือมันก็สวยยยนะ แต่เราไปถึงตรงนั้นเที่ยงจ้าาาาา แดดจ้าาาาา ไหม้จ้าาาาา 555555555

แพลนวันแรกจริงๆหมดแหละ พ่อเลยพาขึ้นไปดูที่ม่อนแจ่มก่อนเพราะเวลาเหลือ

และเราก็ยังไม่เคยขึ้นไปดูด้วยยย คนเยอะแหละ แต่ก็ไม่ได้แออัด

ที่มันกว้าง ฟ้าใส แดดดีเหลือเกิน

จากที่นี่เราก็ไปบ้านที่ม่อนเงาะเลยยยย แวะตลาดซื้อกับข้าวกันก่อนขึ้นม่อนด้วย

ถึงบ้านสี่โมงนิดๆ เรารีบอาบน้ำสระผมก่อนเลย เพราะกลัวดึกกว่านี้จะหนาว

วันนี้ตื่นเช้า เพลียแดด หลับตั้งแต่สองทุ่มครึ่งเลยย 

--------------------------------------------------------------------------

มาต่อวันที่สอง เราตื่นตีห้าครึ่งเพราะวันนี้จะไปเที่ยวดอยแม่โถ

จากตรงที่บ้านไปนู่นก็สี่ชั่วโมงกว่า 

แต่กว่าจะออกจากบ้านก็หกโมงกว่าเกือบเจ็ดแหน่ะ

พ่อขับยาวๆตาม map ไปเลยยยยยย ถึงข้างล่างก่อนจะเข้าทางขึ้นดอย

ก็ประมาณสิบโมงล่ะ แวะกินข้าวเช้า เข้าห้องน้ำกันก่อนน

แล้วก็ไปกันต่อ ถึงจุดบริการรถขึ้นดอยแม่โถ ประมาณเที่ยง

ติดต่อจองรถแล้วก็รอรถมารับ 

เป็นรถกระบะ ไม่มีแคป ปีนขึ้นหลังรถเกาะกันไปจ่ะ

ราคารถบริการขึ้นดอย ถ้าขึ้นไปแค่ทุ่งหญ้าสะวันนา 500 บาท 

แต่ถ้าไปดอยแม่โถ 360องศา 1000 บาท ไปกลับ แต่จะต้องเดินขึ้นดอยอีกประมาณ 2 กิโล

เฉพาะเดินขึ้นดอยก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง 

แต่จะมีไกด์คือคือคนที่ขับรถ เดินขึ้นมาพร้อมกับเรา

คอยช่วยเหลือ แบกน้ำ หรือถ้าเราถามว่าอีกไกลมั้ย

เค้าก็จะให้กำลังใจว่า อีกนิดเดียว ! 

เอาจริงคือเหนื่อยมากเลยล่ะ แต่มาแล้วก็ต้องเดินขึ้นอ่ะเนอะ 55555 

ทำไมต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยยยยย

แล้วกลับไปนอนม่อนเงาะเหมือนเดิม ถึงบ้านประมาณสองทุ่ม

-------------------------------------------------------------------------------

วันที่สามของทริปล่ะ วันนี้เราชิวๆตื่นสายหน่อยย แต่ก็ไม่สายมาก

เพราะจะขึ้นไปยอดดอยม่อนเงาะนี่แหละ

ไปดูทะเลหมอก ยังพอมีให้เห็นอยู่

ถ้าจะเดินถึงยอดดอยจะต้องเสียเงินค่าเข้า 30 บาทนะถ้าจำไม่ผิด

ตอนบ่ายแวะไปหาปู่ที่เชียงดาว 

ไปกินข้าวร้านกาแฟฮิมทาง แถวๆด่านตรวจเชียงดาว

บรรยากาศดี ริมน้ำเลยยย แต่อากาศเริ่มร้อนแล้ว 

เสร็จแล้วก็ขับรถกลับม่อนเงาะ ไม่ได้แวะไหนเพราะเวลาไม่พอด้วย

ส่วนวันสุดท้ายเราไม่ได้ไปไหนแล้วววว

ตื่นสาย นั่งเล่นกับหมาบนดอยแถวนั้นนน

แล้วพ่อก็ขับรถมาส่งที่สนามบินกลับกรุงเทพ

จบทริปแล้วจ้าาาาา

ไปไหนอีกดี โควิดนะโควิด ฮือออออออออ เบื่อแล้ว >< 

♥

เราในปีนี้ กับ ปีที่แล้วต่างหรือเหมือนกันยังไง

จริงๆเราก็ยังเป็นเรา เป็นเราเหมือนเดิม อาจจะเป็นเราที่ดีขึ้นด้วยซ้ำ

เพราะบางอย่างมันสอนให้เราต้องอยู่กับความจริง

 แบบความจริงๆเลย ไม่ใช่ความฝัน หรือ ความคาดหวัง

แล้วเราอยู่กับมันได้ แม้จะเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เราเคยรู้สึกมากๆ

.

.

...

" แต่เธอต้องไม่ลืมมัน เธอต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย 

เธอต้องรับผิดชอบดอกกุหลาบของเธอ...   "

- เจ้าชายน้อย

 

ภูทับเบิก - เขาค้อ [ 14/08/20 - 16/08/20 ]

มาอีกหนึ่งทริป ภูทับเบิก - เขาค้อ

เที่ยวหน้าฝนอะไรก็ดูเขียวไปหมด

แต่จะไม่สบายง่ายอยู่นะ ฝน ลม น้ำค้าง หมอก แดดมาหมด

อากาศเปลี่ยนง่าย พอๆกับความรู้สึกคนเลยแหละ

วันแรกนัดเพื่อนเจอที่บ้านเราตอนตี 5

เพื่อนมาก่อนเวลานิดหน่อย ทำให้เข้าบ้านไม่ได้

เพราะลานจอดรถประตูเปิดตีห้าจ้าา

พอประตูเปิดก็จัดรถกันแปบนึง

ไม่เกินสิบนาทีก็ออกเดินทางกัน

ทุกคนขึ้นรถหลับจ้าาาา เงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่

พอทุกคนหลับแผนที่วางไว้ว่าจะแวะ KFC แถวๆวังน้อย

ก็ขับเลยไปเลยจ้าา เปิดดู map อีกทีเลยไปแล้ว

ไม่ตื่นขึ้นมาดูเอง

เลยได้แค่แวะปั๊มกินข้าวกันง่ายๆก่อน แถวๆสระบุรี

เพราะกว่าจะถึงร้านที่เพชรบูรณ์ก็อีก 3 ชั้วโมง

หลังจากที่ขับเลยจุดพักรถ

เพื่อนก็ไม่หลับอีกเลยย ช่วยดูทาง เพราะเด๋วจะเลยไปเลย 555

เก้าโมงเราก็เข้าเขตเพชรบูรณ์แล้ว

ร้านบัวตองสาขาใหม่คือที่แรกที่จะแวะกินข้าวจริงๆจังๆ

ด้วยความมาถึงเร็วกว่าแพลน เลยกินเรื่อยๆ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยย

บรรยากาศดีๆ 

เรียบร้อยแล้วก็ขับไปภูทับเบิกเลย

อีกเป็นชั่วโมงงงๆ แวะเซเว่นซื้อของกินก่อนเพราะคงไม่ลงมาแล้ว ไกลเกิ้นน

ระหว่างทางขึ้นภูเท่านั้นแหละ ฝนก็มาาาา

ขึ้นถึงที่พักบ่ายโมงตรง ฝนก็ยังลงอยู่ ปรอยแบบถี่ๆ 

เอาของเข้าที่พักเสร็จก็พักกันแปบนึง

รอฝนหยุดตก ใกล้ๆบ่ายสองฝนก็เบาแล้วววว

เลยพากันไปภูหินร่องกล้า ที่เพื่อนอยากจะตัดทิ้งกันมากๆ

แต่เราไม่ยอมมมมม เราจะไปๆๆๆๆ

ออกจากที่พักนิดเดียวก็ถึงทางเข้าอุทยาน เสียเงินคนละ 30 บาท + รถคันละ 90 บาท

และก็ต้องขับเข้าในเขาอีกประมาณ 50 นาทีถึงจะถึงที่จอดรถ และลงเดินเข้าไปตามแต่ละจุดต่างๆ

เราใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง

โชคดีที่อยู่ๆฝนก็หยุดเฉยย และคนแทบไม่มีเลยยยย

ถ้าตัดภูหินร่องกล้าออกคงเสียดายย เพราะเราชอบอ่ะ

ตอนนั้นน่าจะประมาณเกือบๆ 5 โมง 

เลยขับลงไปที่ผาหัวสิง เราตั้งหลักกันอยู่พักใหญ่

ดูรถว่าคันไหนเค้าขึ้นกันแบบไหน 555555 

สรุปว่าเราก็ไม่ได้ขึ้น เพราะงงๆกับทางและ หมอกก็เริ่มมา ขึ้นไปก็จะมองไม่เห็นอะไรอยู่ดี

กลับที่พัก เตรียมกินหมูกะทะดีกว่าาาา

ตอนกลับถึงที่พักเจอทะเลหมอกด้วย

จบวันแรกไปกับหมูกะทะและอากาศหนาวๆ

------------------------------------------------

เช้าวันที่สองของทริป 

ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตี 5 และทุกๆครึ่งชั่วโมง

คอยส่องออกไปดูว่ามีหมอกมั้ย ทะเลหมอกจะมามั้ยย

จนประมาณเจ็ดโมง ได้เห็นทะเลหมอก แต่ฝนก็ยังตกปรอยๆตลอดเวลา

เวลายังเหลือๆเพราะไม่รีบก็เลยนอนต่อ 555

ตื่นมากินข้าวเช้า อาบน้ำ เก็บของ เช็คเอ๊าจากภูทับเบิกกัน

ก่อนจะไปเขาค้อ

ก็ขับขึ้นไปที่วัดป่าภูทับเบิกกันก่อนนน ไปไหว้พระทำบุญกันบ้าง :D

แล้วก็แวะซื้อผลไม้ระหว่างทางจะลง

คือไม่ว่าเราถามว่าลูกนี้คืออะไร เค้าจะแกะมาให้เราชิมทุกอย่าง

ชิมจนอิ่มอ่ะ  เลยไม่กล้าถามแล้วว่าอะไรคืออะไรบ้าง

เสร็จก็ได้เวลาลงจะภูจริงๆแล้วว

เราแวะกินข้าวที่ร้านโรงเตี๊ยมก่อน

ไปถึงช่วงเที่ยงๆบ่ายๆคนเยอะ ต้องจองคิว

แต่ก็รอไม่นานมากก็ได้โต๊ะนะ

เสียดายช่วงเวลาที่เราไปคือมองไม่เห้นวิวอะไรเลย

เพราะหมอกฟุ้งหนามากๆ

แล้วเราก็ขับลงมาแวะคาเฟ่

ก็ยังเหมือนเดิมหมอกยังฟุ้งและหนาเหมือนเดิม - -"

นั่งกันอยู่นาน ก็แบบหมอกไม่หายสักที

ไปเหอะ ไปขับรถออกเท่านั้นแหละ หมอกหายยยย

เลยได้โอกาสแวะวัดผาซ่อนแก้ว ที่ตอนแรกมองไม่เห็นอะไรเลย

ตอนนั้นก็เริ่มเย็นแล้วที่พักที่เขาค้อเริ่มโทรตาม

จะมาเช็คอินกี่โมง เลยต้องรีบไปกันนนน

ก่อนกลับฟ้าเปิด เห็นทะเลหมอกเล็กๆด้วยยยย

ถึงเขาค้อก็เกือบมืดแล้ววว เก็บของอะไรเสร็จก็ออกมาหาข้าวเย็นกินกัน

จบที่ร้านลาบเป็นร้านอาหารเหนือ

ทุกคนก็หิวมากไป 6 คน กับข้าว 10 !! อย่าง 

อย่าหาทำ ต้องห่อกันกลับไปกินที่พักต่อ 

นั่งเล่นหน้าบ้านพักกันต่อ อากาศหนาว ลมเย็น

จบคืนนั้นด้วยบทสนทนาอะไรไม่รู้

จำไม่ได้ แต่ได้สระผมแล้ววววว เย้ 555555

---------------------------------------------------

วันที่สามของทริปแล้วววว 

เรายังต้องตั้งนาฬิกาปลุก ถี่ๆเหมือนเดิม

มีทะเลหมอกอยู่ 5 นาทีจ้าาาาาาาา 

เราออกมาถ่ายรูปทัน แต่อีเพื่อนไม่ทันจ้าาาา

พลาดแล้วคือพลาดเลยยย 

ฝากมื้อเช้าไว้กับที่พักนี่แหละ 

อาบน้ำ เก็บของเช็คเอ๊าแบบไม่รีบ 

แพลนวันนี้ตอนแรกจะไปไหว้พระ แต่ด้วยความขี้เกียจของแต่ละคน

เลยทำได้แค่ผ่านหน้าวัดแล้วยกมือไหว้  แบบนี้ก็ได้ว่ะ ฮ่าๆๆ

แล้วก็เลยไปหาทางเข้าจะไปกังหันลม

อากาศเป็นใจมากๆ ฝนลงตลอดเลยจ้าาา 

วันนี้ฟ้าขมุกขมัวกว่าทุกววันนน 

พลังงานก็เริ่มหมด อยู่กับแปบเดียวก็ไปนั่งพักกินน้ำกินกาแฟกันดีกว่า

อ่ะก่อนจะกลับกรุงเทพ ไปกินขนมจีนในตัวเมืองก่อน

จะได้จบทริปแบบจริงจังแล้วววว

แล้วก็ขับรถกลับกรุงเทพ

จบทริปจ้าาาา

See you next trip :))

นครนายก - อ่างเก็บน้ำทรายทอง [ 27/07/20 ]

หลังจากเราไปเขาช่องลมแล้ว

อาทิตย์ถัดมา เราก็หาเรื่องอีกแล้วววว 

ยังไม่อิ่มกับนครนายก 555555 

เปิดดูว่ามีที่ไหนพอจะไปบ่ายๆและเย็นกลับได้มั้ย

มาเจออ่างเก็บน้ำทรายทอง

เราออกจากบ้านประมาณบ่ายสองโมง

ไปถึงใกล้ๆปากทางเข้า เวลายังเหลือเลย search หาร้านอาหาร

กินข้าวมื้อบ่ายกันก่อนน นั่งเล่นรอพระอาทิตย์เบาๆลงหน่อย

นั่งดู map จากร้านอาหารไปแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมายเราแล้ว

เลยออกประมาณห้าโมง ไปถึงประมาณห้าโมงครึ่ง

แสงกำลังดี ไม่ร้อน ลมเย็น คนหอบของไปปิคนิคกันเต็มเลยยย

ที่บังเอิญที่สุดของการมาที่นี่คือเจอน้องที่ออฟฟิตเดียวกันไปอีกกกก 

See ya :))