ก็อยากลองเที่ยว
คิดว่าถ้าได้ไปเที่ยวครั้งต่อๆไปจะกลับมาบันทึกทุกครั้ง
จริงๆแล้ว Trip นี้ เรา Note สั้นๆ ไว้ใน Notenook เพิ่งจะอยากหาที่ลง .. 1 ปี ผ่านไปแล้ว ไม่นานเนอะ คิคิ
เอาเป็นว่าสำหรับ Trip นี้เรา copy ที่เราเขียนไว้มาแปะเลยละกัน ^^"
.
.
29 April 2014
สวัสดีอยากกลับมาเขียน Diary อีกสักที เพราะไปเที่ยวญี่ปุ่น ไดอารี่นี้จึงเกิด
อยากบันทึก ไว้กลับมาอ่าน .. เป็นความทรงจำดีดี
กลัวทิ้งไว้แล้วก็จะลืมมันไปอีก .. ขอเริ่มจากวันเดินทางเลยละกัน
ยังทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน
เลิกงานหกโมงรีบกลับบ้าน ถ้ารีบจริงๆ ใช้เวลาแค่ 40 นาทีเอง
ถึงบ้านเวลาเหลือๆ เตรียมตัวสบายๆเลยยยย
ออกจากบ้านสองทุ่มเกือบจะครึ่งแล้วววววว ตาแว่นบอกว่าทัน !
สามทุ่มก็ถึงสนามบิน
เราเช่า pocket wifi ของบริษัท bs-mobile ไว้ด้วยต้องไปรับที่ชั้น 4 ประตู 3
เช่าทั้งหมด 6 วัน ราคารวมประกันก็ 1900 นิดหน่อย
เค้าไม่คิดวันรับเครื่องกับคืนเครื่อง (เปิดใช้ได้เฉพาะที่ญี่ปุ่นนะจ้ะ)
สำหรับ pocket wifi ของบริษัทนี้ เราว่าสัญญาโอเคนะ แต่แบตหมดค่อนข้างเร็ว
เครื่องออก 23.50 ตรงเวลาเป๊ะ
เดินทางด้วยการบินไทย ตั๋วถูกๆกับการแลกไมล์บัตรเครดิต บินตรง 6 ชั่วโมง
นอนบนเครื่องไม่ค่อยหลับ ตีสามตามเวลาประเทศไทยก็ตื่นแล้วว เพราะท้องฟ้าสว่างจ้าาาา
ประเทศญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่า 2 ชั่วโมง สรุปคืนนี้นอนไปแค่ 3 ชั่วโมง - -"
เครื่อง landed เรียบร้อย พร้อมละ ครั้งแรกกับต่างประเทศ เฮ้
30 April 2014
(เที่ยวย่าน Asakusa , Tokyo sky tree , ตึกฟองเบียร์ Asahi , วัดเซนโซจิ , ย่าน Ueno ตลาด Ameyoko)
ลงเครื่อง รอรับกระเป๋า ก็น่าจะประมาณแปดโมงกว่า อิงตามเวลาญี่ปุ่นละนะ
ลากกระเป๋าลงไปชั้นล่างจะเจอ counter ของรถไฟ keisei เรานั่งรถไฟ แบบ skyliner เข้าไป Ueno
ราคาตั๋วรถไฟเข้าโตเกียว + 2 day pass for metro ราคารวมๆ 2990 yen
รถไฟออก 9.24 ตรงเวลามากรถไฟญี่ปุ่น เรามีเวลานั่งรอรถไฟประมาณ 30 นาทีเลยทีเดียว
ลงมารอเร็วไปหน่อยยย
สิบโมงครึ่งก็ถึงสถานี Ueno ถึงตรงนี้เริ่มต้องเปิด กระดาษที่ print มาแล้วว่าเดินไปทางไหน
เดินตามทางใต้ดินเรื่อยๆเลยตามเส้น Ginza line (วงกลมสีส้มๆ) ไปทางประตู
1-2 โผล่ออกมาก็เจอโรงแรม Mitsui เลยย
ใกล้มาก สะดวกสุดๆ
เราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลา check in
พอถึงเวลาเค้าจะเอากระเป๋าไปไว้บนห้องให้เลย
ถึงโรงแรมก็ขอเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน .. เป็นครั้งแรกที่เข้าน้ำที่ญี่ปุ่น ฮาๆๆๆๆๆ ทันสมัยที่สุด
แล้วเราก็ออกลุยเลยยยย
ที่แรกเดินขึ้นจากรถไฟ metro ก็ต้องเข้า familymart ซื้อร่ม ฝนตก 515 Yen
(แนะนำถ้าซื้อข้างนอกจะถูกกว่ามากๆ 100กว่า yen เท่านั้น)
แล้วก็เดินไปที่สะพานแดงๆก่อนเพื่อไปถ่ายรูป วิวตึก Tokyo sky tree กับ ตึกฟองเบียร์ หรือตึก Asahi นั่นเอง
เดินกลับไปกลับมาอยู่ซักพักก็เดินกลับไปทางสถานีรถไฟ
เพื่อไป วัด Senjoji มาถึงวัดฝนตกแรงเลยยย หนาวมากกก แต่ตกแปบๆก็หยุด
เดินเล่นในวัดถ่ายรูปอยู่ซักพักก็เดินเล่นร้านขายของกินหน้าวัด
เลยซื้อขนม เค้าเรียกว่าอะไรล่ะ ที่ทอดๆแล้วมีไส้ข้างใน สั่งไส้คาสตาร์ด 1 ลูก 170 Yen
เดินออกมาหน้าวัดตามหาร้านราเมงตู้กด ตามหนังสือ กินแบบ Original สุดๆ ชามละ 650 Yen
เสร็จเรียบร้อยก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับย่าน Ueno
เดินขึ้นมาตลาด Ameyoko เป็นการเดินงูๆปลาๆจบับต้นชนปลายไม่ถูก
เดินไปเรื่อยๆ สุดท้าย หลง งงงวยกับทิศทาง มันคือตรงไหน !!
ทั้งๆที่ความจริงมันก็ไม่ยากอย่างที่คิด(เพิ่งกระจ่างตอนวันหลังๆ)
ฝนตกแรง park เลยไม่ได้ไปเดินเล่นเลยยยยย
บ่ายสามโมงกลับโรงแรมดีกว่า พักผ่อนมาน้อย ล้ามากมาย
จบวันแรกแบบเหนื่อยๆแต่ happy จ้าาาาาา (เรายังคงตื่นเต้นกับบ้านเมืองที่ญี่ปุ่น)
No comments:
Post a Comment